Different Types of Custom Application Companies.

 

สืบเนื่องจากเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ต่างหันมาให้ความสนใจกับการใช้สื่ออีเล็กโทรนิกอันได้แก่ เว็บไซต์ เว็บแอปพลิเคชั่นต่างๆ ในการเพิ่มยอดขายให้แก่บริษัท จึงมีบริษัทรับพัฒนาเว็บแอปพลิเคชั่นเกิดขึ้นมากมาย แต่เราจะรู้ได้อย่างไรว่าบริษัทแบบไหนที่เหมาะสมกับเรา วันนี้เราจะมาช่วยคุณตัดสินใจเลือกบริษัทที่ใช่ให้ธุรกิจคุณ โดยการแบ่งบริษัทรับพัฒนาเว็บไซต์ออกเป็น 4 ประเภท ดังนี้

1. กลุ่มบริษัทรับพัฒนารายใหญ่

บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในทำเลทอง อยู่ในอาคารใหญ่ ที่แค่ได้ยินชื่อ ได้เห็น location ก็ทำให้เราคิดไปแล้วว่าต้องดีอย่างแน่นอน แต่ก็อย่างว่าของถูกและดีไม่มีในโลก ยิ่งอยู่ในทำเลดีทำเลทองขนาดนั้น คุณมั่นใจได้เลยว่าราคาค่าจ้างก็ต้องสูงตามค่าเช่าที่ของเขาแน่นอน แต่สำหรับใครที่คิดว่ามีเงินสำรองเหลือเฟือและพร้อมที่จะจ่าย บริษัทในกลุ่มนี้ถือว่าเหมาะมากสำหรับคุณ ส่วนในเรื่องการดำเนินงาน บริษัทประเภทนี้มีจุดเด่นในเรื่องการบริหารจัดการโปรเจค และการบริการหลังงานขาย เพราะเขามีทีมบริหารที่คอยติดต่อ ดูแลงานของคุณอยู่ อย่างไรก็ดีหลายๆครั้งที่ บริษัทขนาดใหญ่ในเมืองไทยก็จำเป็นต้อง Outsource งานพัฒนาย่อยๆให้กับรายเล็กๆ ซึ่งก็จะเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดปัญหาเป็นลูกโซ่มาถึงเราได้เช่นกัน

2. กลุ่มบริษัทรับพัฒนาขนาดกลางและขนาดเล็ก

บริษัทในกลุ่มนี้จะเป็นบริษัทที่ไม่ใหญ่มาก จำนวนพนักงานตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป ฐานลูกค้าก็จะมีตั้งแต่บริษัทใหญ่ๆจนถึงบริษัทขนาดเล็ก ลักษณะการดำเนินงานจะมุ่งพัฒนาแบบเร็ว โปรเจ็คต่อโปรเจ็ค  ในบางครั้งบริษัทในกลุ่มนี้ก็จะได้รับการว่าจ้างจากบริษัทขนาดใหญ่ๆมาอีกทีเช่นกัน ในเรื่องของการดำเนินงาน บริษัทประเภทนี้มีจุดเด่นในเรื่องความยืดหยุ่นของงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเวลาหรือรูปแบบของงาน ในกรณีที่ลูกค้าต้องการปรับเปลี่ยนงานในส่วนไหน ทางบริษัทก็สามารถทำได้เลย ส่วนเรื่องของราคาก็จะค่อนข้างสมเหตุสมผลไม่เรียกราคาที่แพงจนกระเป๋าฉีก แต่จะเทียบราคากับรายละเอียดของงานนั้นๆมากกว่า

3. กลุ่มนักพัฒนาโปรแกรมอิสระ

กลุ่มนี้จะเรียกง่ายๆก็คือ Freelance แต่ Freelance ในที่นี้คือนักพัฒนาโปรแกรมที่ทำงานประจำอยู่แล้ว แต่ยังรับจ๊อบพิเศษหารายได้เสริม ซึ่งนักพัฒนาเหล่านี้จะเรียกราคาค่าจ้างตามประสบการณ์ หรือคำนวณจากค่าใช้จ่ายส่วนตัวในแต่ละเดือนของเขา ในเรื่องคุณภาพของงาน ตามที่พูดไปแล้วว่า Freelance เหล่านี้มีงานประจำอยู่แล้ว ดังนั้นเวลาที่เขาจะทำงานของคุณคือหลังจากที่เสร็จงานของเขาแล้ว เพราะฉะนั้นหากช่วงไหนเขายุ่งขึ้นมา งานของคุณอาจได้รับผลกระทบด้วย หรืออาจจะถึงขั้นฉีกสัญญาทิ้งเลยก็ได้ แต่ Freelance ที่ดีก็มีอยู่มาก ถ้าหากว่าคุณได้เจอคนที่ดีมีประสบการณ์ เขาก็อาจจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้กับโปรเจคของคุณได้เช่นกัน

4. กลุ่มบริษัทที่ขายงานแบบ Template

กลุ่มสุดท้ายนี้จะเป็นกลุ่มที่รับพัฒนาโปรแกรมแบบ customize เช่นเดียวกับกลุ่มอื่นๆ แต่จะยึดพัฒนาแอปพลิเคชั่น หรือเว็บไซต์จากแม่แบบที่ทำไว้แล้ว และเมื่อลูกค้ามาจ้างให้พัฒนาโปรแกรม ทางบริษัทเหล่านี้ก็จะเสนอแพคเกจต่างๆในราคาที่ถูก ความแตกต่างของแต่ละแพคเกจก็จะขึ้นอยู่กับจำนวนข้อมูล หรือเทคนิคพิเศษบางอย่าง เช่นในบางบริษัทถึงกับหั่นราคาในการทำเว็บไซต์เหลือเพียงไม่กี่พันบาท เพื่อกระตุ้นยอดขายของตนเอง บริษัทแบบนี้จะมุ่งให้บริการในส่วนของเทคนิคอย่างเดียว โดยไม่ได้ให้ความสำคัญในส่วนของการตลาด หรือ IT Support ซักเท่าไร จึงเหมาะกับลูกค้าที่มีทีมบริหารการตลาดหรือทีม IT Support ที่คอยดูแลเรื่องนี้อยู่แล้วมากกว่า หรือบริษัทที่อยากจะลองเครื่องมือทำธุรกิจใหม่ๆ เท่านั้น

เป็นยังไงบ้างคะกับข้อมูลที่ได้ในวันนี้ การที่จะเลือกจ้างบริษัทไหนให้มาทำงานให้กับเรานั้น ต้องพิจารณาให้ดีเลยทีเดียว เพราะมันก็เปรียบเสมือนการเลือกคนเข้ามาร่วมทีม ถ้าเราเลือกคนที่ไม่เชี่ยวชาญจริงหรือขาดความรับผิดชอบเข้ามา ทีมเราก็อาจจะไม่ประสบความสำเร็จก็เป็นได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นตัวช่วยก่อนการตัดสินใจของคุณไม่มากก็น้อยนะคะ